“กฎระเบียบพิเศษว่าด้วยการป้องกัน ควบคุม และบรรเทาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และการฟื้นฟู” ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2023 เพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขและการสวัสดิการจึงได้แก้ไขมาตรา 74-1 ของ “กฎหมายป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ” ก่อนที่กฎระเบียบจะหมดอายุ โดยเตือนให้ผู้ที่มีคุณสมบัติในการขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคสามารถขยายระยะเวลาการยื่นขอได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2025 และจะไม่รับเรื่องอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 เวลา 00:00 น. เป็นต้นไป
กระทรวงสาธารณสุขและการสวัสดิการชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เริ่มขึ้นในปี 2020 รัฐบาลได้ให้เงินชดเชยการป้องกันโรคจำนวน 1,000 ดอลลาร์ไต้หวันต่อวันแก่ผู้ที่ได้รับการพิจารณาจากหน่วยงานสาธารณสุขว่าต้องเข้ารับการกักตัวหรือการแยกกัก และสมาชิกในครอบครัวที่ต้องดูแลผู้ที่ถูกกักตัวหรือแยกกักและไม่สามารถดูแลตนเองได้ โดยผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อไม่สามารถขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคได้ เดิมทีกำหนดเวลาการยื่นขอคือภายใน 2 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดการกักตัวหรือการแยกกัก
เฉพาะชาวไต้หวันและผู้ถือใบอนุญาตพำนักเท่านั้น รวมถึงแรงงานต่างด้าวด้วย
ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2020 ผู้ที่มี “สัญชาติสาธารณรัฐจีน” หรือ “ผู้ถือใบอนุญาตพำนักของไต้หวัน” มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยการป้องกันโรค บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไต้หวัน ประชาชนจากจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงชาวฮ่องกงและชาวมาเก๊า หากไม่มีใบอนุญาตพำนักของไต้หวัน จะไม่มีสิทธิ์ยื่นขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรค แรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในไต้หวันและถือใบอนุญาตพำนักที่ถูกต้องก็มีคุณสมบัติในการยื่นขอเช่นกัน
ผู้ที่ถูกกักตัวหรือแยกกักที่มี “สัญชาติสาธารณรัฐจีน” หรือ “ผู้ถือใบอนุญาตพำนัก” หรือผู้ดูแลผู้ที่ถูกกักตัวหรือแยกกักซึ่งไม่สามารถดูแลตนเองได้ จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยในระหว่างการกักตัวหรือแยกกัก จะต้องไม่ละเมิดกฎระเบียบการกักตัวหรือแยกกัก ไม่ละเมิดมาตรการป้องกันโรคที่กำหนดโดยศูนย์บัญชาการการแพร่ระบาดกลาง ไม่ได้รับค่าจ้าง และไม่ได้รับเงินอุดหนุนที่มีลักษณะเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับอื่น ๆ จึงจะมีคุณสมบัติในการขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรค
ตามสถิติ การยื่นขอเงินชดเชยการป้องกันโรคเริ่มรับเรื่องตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2020 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2025 มีการรับเรื่องรวม 2,685,481 ราย และได้จ่ายเงินให้แก่ 1,994,372 คน รวมเป็นเงิน 11,097,866,000 ดอลลาร์ไต้หวัน สาเหตุของการไม่ผ่านการพิจารณา ได้แก่ ไม่ใช่ผู้ที่ถูกกักตัวหรือแยกกัก ละเมิดกฎการกักตัวหรือแยกกัก ยื่นขอซ้ำซ้อน ข้อมูลไม่สมบูรณ์ หรือไม่ยื่นเอกสารเพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนด
กระทรวงสาธารณสุขและการสวัสดิการชี้แจงว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติในการขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคก่อนที่กฎระเบียบจะหมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายน 2023 แต่ไม่ทันได้ยื่นขอภายใน 2 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดการกักตัวหรือแยกกัก สามารถยื่นขอได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2025
ตัวอย่างเช่น นาย ก. สิ้นสุดการกักตัวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2022 ควรยื่นขอภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2024 แต่ไม่ได้ยื่นขอก่อนที่กฎระเบียบจะหมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายน 2023 เขาสามารถยื่นขอได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2025
ผู้ที่อยู่ในช่วงการป้องกันตนเองไม่สามารถขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคได้
ไต้หวันเริ่มใช้มาตรการจัดการชายแดน 0+7 สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2022 ซึ่งหมายความว่าผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องกักตัวที่บ้านอีกต่อไป แต่เปลี่ยนเป็น “การป้องกันตนเอง 7 วัน” และตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2022 ผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมดจะใช้มาตรการ “การป้องกันตนเอง 7 วัน” และจะไม่มีการออกหนังสือแจ้งการกักตัวที่บ้านอีกต่อไป ผู้ที่อยู่ในช่วง “การป้องกันตนเอง” จะไม่ถูกจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคล จึงไม่สามารถขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคได้
กระทรวงสาธารณสุขและการสวัสดิการอธิบายเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่ยื่นขอจะต้องกรอกใบสมัครทางออนไลน์ และแนบสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร หลักฐานการลาหยุดงานและการไม่ได้รับค่าจ้างของลูกจ้าง หรือหนังสือรับรองการไม่สามารถทำงานและไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือเงินชดเชย เป็นต้น จำนวนวันที่กักตัวของแต่ละคนไม่เท่ากัน ต้องดูจากวันที่ได้รับแจ้ง แรงงานที่ไม่ได้ค่าจ้างสามารถรับเงินชดเชยการป้องกันโรคได้วันละ 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน นายจ้างยังคงต้องรับผิดชอบค่าจ้างวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันหยุดประจำสัปดาห์ และวันหยุดพักผ่อนตามกฎหมายแรงงาน
กระทรวงสาธารณสุขและการสวัสดิการเตือนว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติในการขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรคควรยื่นขอโดยเร็วที่สุดผ่าน “ระบบการขอรับเงินชดเชยการป้องกันโรค” (เว็บไซต์: https://swis.mohw.gov.tw/covidweb/) ระบบจะปิดหลังจากเลยกำหนด และจะไม่รับเรื่องอีกต่อไป หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสำนักงานเขต (ตำบล, เมือง, อำเภอ) ที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่เคยถูกกักตัวหรือแยกกัก