(FWA 2025/10/14)แรงงานข้ามชาติฝีมือ (Blue-collar) อยู่ภายใต้ระบบบำนาญแรงงานแบบเก่า ปัจจุบันมีแรงงานข้ามชาติบางส่วนได้เปลี่ยนสถานะเป็นบุคลากรด้านเทคนิคระดับกลาง ซึ่งไม่จำกัดระยะเวลาการทำงานในไต้หวัน ทำให้มีโอกาสที่จะมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับรับเงินบำนาญ กระทรวงแรงงานได้ออกหนังสือชี้แจงเมื่อวันที่ 14 ระบุว่า หากแรงงานข้ามชาติทำงานกับนายจ้างรายเดียวกันเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ค่าจ้างของพวกเขาจะต้องถูกนำไปรวมในการคำนวณยอดเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับบำนาญระบบเก่า และเพื่อให้เวลานายจ้างได้เตรียมตัว ข้อบังคับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2569

เนื่องจากในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 สภาควบคุม (Control Yuan) ได้ผ่านรายงานการตรวจสอบและเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานทบทวนระบบบำนาญสำหรับแรงงานข้ามชาติฝีมืออย่างครอบคลุม เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและการผ่อนปรนข้อจำกัดด้านระยะเวลาการพำนักในไต้หวันของแรงงานข้ามชาติ

เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานอธิบายว่า ในแต่ละเดือนนายจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับบำนาญระบบเก่าในอัตราร้อยละ 2-15 ของค่าจ้างทั้งหมดของลูกจ้างที่อยู่ภายใต้ระบบเก่า และจะต้องนำส่งเงินสมทบเต็มจำนวนเข้าบัญชีธนาคารแห่งไต้หวัน (Bank of Taiwan) ภายในสิ้นเดือนมีนาคมของทุกปี หนังสือชี้แจงฉบับใหม่ได้ระบุเพิ่มเติมว่า แรงงานข้ามชาติที่ทำงานกับนายจ้างรายเดียวกันไม่เกิน 10 ปี ไม่จำเป็นต้องถูกนำมาคำนวณในส่วนนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากแรงงานข้ามชาติทำงานกับนายจ้างรายเดียวกันนานกว่า 10 ปี ค่าจ้างของพวกเขาจะต้องถูกนำไปรวมในการคำนวณยอดเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะแรงงานเหล่านี้อาจเปลี่ยนสถานะเป็นบุคลากรด้านเทคนิคระดับกลางและจะมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับรับเงินบำนาญ นายจ้างจึงต้องเตรียมการล่วงหน้า

เจ้าหน้าที่ย้ำว่า ข้อบังคับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2569 และในช่วงเวลานี้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นายจ้างอย่างเข้มข้น นายจ้างจึงควรตรวจสอบและเตรียมความพร้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้