(FWA 2025/10/24)เพื่อช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานและครอบครัวให้ก้าวผ่านความยากลำบาก กระทรวงแรงงานได้ผลักดัน “โครงการช่วยเหลือด้านสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายสำหรับลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุจากการทำงานและครอบครัว” โดยเริ่มตั้งแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน จะมีการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นของอุบัติเหตุฯ, การให้คำปรึกษาโดยทนายความมืออาชีพ, การเข้าร่วมในการประนีประนอมและการไกล่เกลี่ย, ไปจนถึงการช่วยเหลือในการดำเนินคดีในศาล เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุฯ และครอบครัวจะได้รับการชดเชยและค่าสินไหมทดแทนที่ควรได้รับ สำหรับแรงงานข้ามชาติ จะมีการจัดหาล่ามช่วยเหลือตลอดกระบวนการ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถสื่อสารได้อย่างไร้อุปสรรคและสามารถใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของตนได้
กระทรวงแรงงานระบุว่า ในทางปฏิบัติ มักพบว่าลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุฯ และครอบครัวต้องเผชิญกับความไม่เท่าเทียม 3 ประการหลังจากเกิดเหตุ ได้แก่ ความไม่เท่าเทียมด้านข้อมูล, ความไม่เท่าเทียมด้านอำนาจ, และความไม่เท่าเทียมด้านทรัพยากรทางเศรษฐกิจ การที่ข้อมูลระหว่างนายจ้างและลูกจ้างไม่สมมาตรกัน ประกอบกับการขาดความช่วยเหลือเฉพาะทางจากทนายความ ทำให้ลูกจ้างมักตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบเนื่องจากขาดข้อมูลที่ถูกต้อง การให้คำปรึกษาทางกฎหมายเบื้องต้นที่จัดหาให้โดยหน่วยงานท้องถิ่นในปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคดีที่ซับซ้อนได้ ทำให้ความสามารถในการเจรจาต่อรองและการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกจ้างและครอบครัวไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ ทรัพยากรช่วยเหลือทางกฎหมายที่มีอยู่มีข้อจำกัดด้านฐานะการเงิน (การตรวจสอบฐานะการเงิน) ครอบครัวที่สูญเสียเสาหลักทางเศรษฐกิจไปทันทีหลังจากเกิดเหตุจะไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมความช่วยเหลือทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ส่งผลให้จำนวนเงินที่ตกลงกันในคดีเสียชีวิตจากการทำงานมักจะต่ำ โดยประมาณ 30% ของคดีมีมูลค่าไม่ถึง 3 ล้านเหรียญไต้หวันใหม่ การที่นายจ้างมีความรับผิดต่อเหตุการณ์ต่ำเกินไป ทำให้ไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยในการทำงานเพียงพอ นอกจากนี้ แรงงานข้ามชาติที่ประสบอุบัติเหตุฯ ก็มักจะถูกจำกัดด้วยอุปสรรคด้านภาษาและความไม่เข้าใจในกฎระเบียบ ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ของตนได้อย่างเหมาะสม
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โครงการช่วยเหลือใหม่นี้จะดำเนินการดังต่อไปนี้หลังจากเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน:
- ให้ข้อมูลทันท่วงที: จัดทำตารางวิเคราะห์เบื้องต้นของการตรวจสอบอุบัติเหตุฯ ให้แก่ลูกจ้างและครอบครัวทันที เพื่อให้พวกเขาสามารถเข้าใจความเป็นมาของเหตุการณ์ ลดระยะเวลาในการได้รับข้อมูล และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐาน
- ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ: ให้บริการปรึกษาทนายความเฉพาะทาง, การเข้าร่วมในการประนีประนอมและการไกล่เกลี่ย เพื่อให้ลูกจ้างได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายอย่างมืออาชีพทันทีหลังเกิดเหตุเพื่อปกป้องสิทธิ์ และหลีกเลี่ยงการยอมรับข้อตกลงประนีประนอมหรือไกล่เกลี่ยที่ไม่เป็นธรรมอย่างเร่งรีบ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะรวมกระบวนการอนุญาโตตุลาการข้อพิพาทแรงงานเข้ามาอยู่ในขอบเขตการช่วยเหลือทางกฎหมาย เพื่อให้ลูกจ้างสามารถแก้ไขข้อพิพาทได้อย่างรวดเร็วผ่านกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
- ขยายการช่วยเหลือในการดำเนินคดี: นอกเหนือจากเนื้อหาโครงการช่วยเหลือการดำเนินคดีสำหรับลูกจ้างที่กระทรวงแรงงานร่วมมือกับมูลนิธิช่วยเหลือทางกฎหมายในปัจจุบัน จะมีการผ่อนปรนข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต (และครอบครัว) โดยยกเว้นการตรวจสอบฐานะการเงิน เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือในการดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว และขยายขอบเขตการช่วยเหลือให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในกระบวนการทางอาญา วางแผนช่วยเหลือครอบครัวลูกจ้างที่เสียชีวิตในการวางเงินประกันสำหรับการอายัดทรัพย์สินชั่วคราว (Provisional Attachment) พร้อมกันนี้ จะมีการจัดอบรมสัมมนาสำหรับทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานของกระทรวงแรงงาน เพื่อเพิ่มคุณภาพการบริการและความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดี
- การช่วยเหลือด้านล่ามเต็มรูปแบบ: จัดหาล่ามช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติที่ประสบอุบัติเหตุฯ ตลอดกระบวนการแก้ไขข้อพิพาททั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานข้ามชาติสามารถสื่อสารได้อย่างไร้อุปสรรค และใช้สิทธิ์ทางกฎหมายของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การศึกษาและฝึกอบรม: ผลักดันการให้ความรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายแก่นายจ้างและลูกจ้างอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับสิทธิ์และหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลังเกิดเหตุ และจัดอบรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการของลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุฯ ให้แก่ทนายความ, ผู้ไกล่เกลี่ย, และเจ้าหน้าที่บริการมืออาชีพด้านอุบัติเหตุจากการทำงานในพื้นที่ (PAS) เพื่อยกระดับความเป็นมืออาชีพในการให้บริการคุ้มครองสิทธิ์หลังเกิดเหตุ





